ศูนย์รวมคำถามที่พบบ่อย (FAQ)

การตรวจสอบบัญชีคือกระบวนการที่ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) ตรวจสอบงบการเงินและเอกสารประกอบ เพื่อยืนยันความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของข้อมูลทางการเงินของกิจการตามมาตรฐานที่กำหนดไว้

บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด และกิจการที่จดทะเบียนตามกฎหมายส่วนใหญ่ มีหน้าที่ต้องจัดทำและตรวจสอบบัญชีทุกปี และนำส่งงบการเงินที่ได้รับการตรวจสอบต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร

ปกติการตรวจสอบบัญชีใช้เวลา 3-7 วันทำการ ขึ้นอยู่กับขนาดธุรกิจและความพร้อมของเอกสาร หากเอกสารครบถ้วนจะดำเนินการได้รวดเร็ว

ค่าบริการตรวจสอบบัญชีขึ้นอยู่กับขนาดธุรกิจ ปริมาณรายการทางบัญชี และความซับซ้อนของงาน สามารถติดต่อสอบถามหรือขอใบเสนอราคาได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

หากไม่ดำเนินการตรวจสอบบัญชีประจำปี บริษัทจะถือว่าผิดกฎหมาย อาจถูกปรับจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไม่สามารถขอสินเชื่อ หรือดำเนินการบางอย่างที่ต้องใช้เอกสารทางการเงินที่รับรองแล้วได้ และอาจมีปัญหากับกรมสรรพากรในอนาคต

มักพบปัญหาเช่น เอกสารทางบัญชีไม่ครบถ้วน รายการบัญชีผิดประเภท รายได้-ค่าใช้จ่ายขาดการบันทึก หรือบัญชีเงินสดไม่ตรงกับความเป็นจริง การเตรียมเอกสารอย่างรอบคอบและบันทึกบัญชีตามจริงจะช่วยลดข้อผิดพลาด

ผู้ทำบัญชีมีหน้าที่บันทึกบัญชีและจัดทำงบการเงิน ส่วนผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) เป็นผู้ที่มีใบอนุญาตในการตรวจสอบและรับรองงบการเงินตามมาตรฐาน และต้องมีความเป็นอิสระจากกิจการ

เลือกใช้บริการผู้สอบบัญชีที่มีใบอนุญาตและประสบการณ์ มีการดำเนินการตรวจสอบตามมาตรฐาน ตรวจสอบเอกสารและกระบวนการอย่างโปร่งใส และสามารถสอบถามขอหลักฐานหรือชี้แจงประเด็นต่าง ๆ จากผู้สอบบัญชีได้

บริษัทสามารถเปลี่ยนผู้สอบบัญชีได้ โดยต้องแจ้งและขอมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น และรายงานการเปลี่ยนแปลงต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และแจ้งในงบการเงินประจำปี

ได้ สามารถขอรับงบการเงินฉบับรับรองแบบดิจิทัล (PDF) ที่มีลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ของผู้สอบบัญชีได้ สะดวกในการนำส่งหน่วยงานและธุรกรรมออนไลน์

ควรเริ่มเตรียมเอกสารและปรึกษาผู้สอบบัญชีล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือนก่อนสิ้นรอบบัญชี เพื่อให้มีเวลาแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อมูลหากพบปัญหา

การตรวจสอบบัญชี (Audit) คือการรับรองงบการเงินโดยผู้สอบบัญชีอิสระ ขณะที่ตรวจสอบภายในคือการตรวจสอบกระบวนการภายในโดยทีมงานหรือที่ปรึกษาของกิจการเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและควบคุมความเสี่ยง

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) คือภาษีที่จัดเก็บจากการขายสินค้าและบริการ อัตรา 7% หากยอดขายของกิจการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภายใน 30 วันหลังยอดถึงเกณฑ์

โดยทั่วไปกิจการต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.1 (ภาษีเงินเดือน), ภ.ง.ด.3 (ภาษีหัก ณ ที่จ่ายบุคคลธรรมดา), ภ.ง.ด.53 (หัก ณ ที่จ่ายนิติบุคคล), ภ.พ.30 (ภาษีมูลค่าเพิ่ม), และแบบประกันสังคม (สปส.1-10) ตามที่กำหนด

หากยื่นแบบภาษีล่าช้าจะถูกปรับทั้งค่าปรับทางอาญา (Penalties) และเบี้ยปรับ (Surcharge) ซึ่งคำนวณตามจำนวนวันที่ล่าช้า ควรยื่นแบบและชำระภาษีให้ตรงเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับ

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนสามารถลดหย่อนภาษีได้จากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกิจการ เช่น เงินเดือนพนักงาน ค่าเช่า ค่าซื้อวัตถุดิบ ค่าการตลาด ฯลฯ แต่ต้องมีเอกสารใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงินที่ถูกต้อง

ควรวางแผนรายรับ-รายจ่าย ตรวจสอบรายการที่สามารถลดหย่อนได้ วางแผนโบนัสหรือค่าใช้จ่ายปลายปี เก็บเอกสารให้ครบถ้วน และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางกลยุทธ์ทางภาษีที่เหมาะกับธุรกิจ

สามารถตรวจสอบสถานะภาษีหรือการคืนภาษีได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร (rd.go.th) โดยใช้รหัสผู้เสียภาษีและรหัสผ่านส่วนตัว

ถือว่าผิดกฎหมาย มีโทษทั้งทางแพ่งและอาญา อาจถูกปรับเป็นเงินก้อนใหญ่ หรือถูกเพิกถอนทะเบียนผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม

สามารถติดต่อสอบถามหรือขอคำปรึกษาด้านภาษีได้กับสำนักงานบัญชีของเรา เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสมกับกิจการของคุณ

SME (Small and Medium Enterprise) คือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งมีจำนวนพนักงาน ยอดขาย หรือมูลค่าสินทรัพย์ตามเกณฑ์ที่รัฐกำหนด โดยมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีและการสนับสนุนจากภาครัฐมากกว่าธุรกิจขนาดใหญ่

กิจการ SME ที่จดทะเบียนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนต้องยื่นงบการเงินและแบบ ภ.ง.ด.50 ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากรทุกปี ไม่ยื่นจะมีค่าปรับ

หากไม่ส่งงบการเงินจะถูกปรับจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และไม่สามารถขอสินเชื่อหรือสิทธิประโยชน์ทางรัฐได้ อาจมีผลกระทบต่อเครดิตธุรกิจด้วย

หากยอดขายถึง 1.8 ล้านบาทต่อปีต้องขึ้นทะเบียน VAT ภายใน 30 วันหลังยอดถึงเกณฑ์ หากยังไม่ถึงสามารถเลือกขึ้นทะเบียนได้โดยสมัครใจ

SME สามารถใช้บริการสำนักงานบัญชีภายนอกเพื่อจัดทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี วางแผนภาษี และขอคำปรึกษาทางธุรกิจ ช่วยลดภาระและความผิดพลาดด้านเอกสาร

Startup คือธุรกิจที่เน้นการเติบโตแบบก้าวกระโดดและนวัตกรรม ส่วน SME คือธุรกิจขนาดเล็ก-กลางที่เน้นการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป Startup มักมุ่งสร้างตลาดใหม่และขยายตัวรวดเร็ว

แนะนำให้จดทะเบียนบริษัทตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อความน่าเชื่อถือ การหาทุน และการแบ่งหุ้นแก่ผู้ร่วมก่อตั้ง (Co-founder) หรือนักลงทุนในอนาคต

ทุกกิจการที่จดทะเบียนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดตามกฎหมายไทย ต้องจัดทำบัญชีและยื่นงบการเงินประจำปี แม้จะยังไม่มีรายได้

ควรกำหนดข้อตกลงหุ้นตั้งแต่แรกเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อป้องกันข้อขัดแย้งในอนาคต แนะนำปรึกษานักกฎหมายหรือนักบัญชีในการจัดสรรหุ้นอย่างเหมาะสม

ต้องยื่นงบการเงินและภาษีตามกฎหมาย แม้จะยังไม่มีรายได้หรือยอดขาย

Startup สามารถว่าจ้างสำนักงานบัญชีภายนอกเพื่อวางระบบบัญชี-ภาษี วางแผนการเงิน หรือขอคำปรึกษาด้านธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยง

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด และนิติบุคคลอื่น ๆ ต้องเก็บรักษาเอกสารทางบัญชี เช่น สมุดบัญชี ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน และเอกสารประกอบรายการบัญชี ไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีนั้น ๆ

บริษัทและห้างหุ้นส่วนจำกัดทุกแห่งต้องแต่งตั้งผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) เพื่อตรวจสอบและรับรองงบการเงินประจำปี ตามกฎหมายบัญชี